วันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

การรักษาด้วยการใช้ยาน่ากลัวจริงๆ

Acetaminophen

ข้อบ่งใช้
• ลดอาการปวดข้อ
ขนาดยา
• 500 มก. (10-15 มก./กก./ครั้ง) ทุก 6 ชั่วโมง วันละไม่เกิน 4 กรัม
ข้อควรระวังในการใช้ยา
• ในผู้ป่วยที่มีโรคตับเรื้อรังหรือดื่มสุรา จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดพิษต่อตับ
• ไม่ควรใช้ยาในขนาดสูงติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน
ข้อห้าม
• แพ้ยากลุ่มนี้
ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ชนิดไม่จำเพาะ (Non-selective NSAIDs)
ข้อบ่งใช้
• ลดอาการปวดของข้อ
• ลดอาการอักเสบของข้อ
หลักในการใช้ยา
• เริ่มขนาดต่ำ ๆ ก่อน เมื่อไม่ได้ผลจึงพิจารณาเพิ่มขนาดของยา
• เลือกใช้ยาเพียงชนิดเดียวในแต่ละครั้ง
• ใช้ยาด้วยความระมัดระวังในกรณีต่อไปนี้

- ผู้ป่วยโรคตับควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาในกลุ่มนี้ โดยเฉพาะยาที่มี enter hepatic
recirculation (indomethacin) ยาที่เป็น prodrug (sulindac, nabumetone) และ ยาที่มีรายงานการ
เกิดตับอักเสบบ่อยหรือรุนแรง (meclofenamate diclofenac phenylbutazone nimesulide และ
naproxen) แต่กรณีจำเป็นและภาวะการทำงานของตับบกพร่องไม่รุนแรง อาจใช้ด้วยความ
ระมัดระวัง และติดตามผลการทำงานของตับอย่างใกล้ชิด
- ในผู้ป่วยที่มีการทำงานของไตบกพร่อง ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยา NSAIDs แต่ใน
กรณีที่การทำงานของไตบกพร่องไม่มากนัก และมีความจำเป็นต้องใช้ยา หลีกเลี่ยงยาในกลุ่มที่ออก
ฤทธิ์นาน (long half life) แต่กรณีจำเป็นและภาวะการทำงานของไตบกพร่องไม่รุนแรง อาจใช้ด้วย
ความระมัดระวัง และติดตามผลการทำงานของไตอย่างใกล้ชิด

- ผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด เนื่องจากอาจทำให้เกิดความดันโลหิตสูง ภาวะ
หัวใจล้มเหลว และหลอดเลือดหัวใจและสมองอุดตัน ถ้าจำเป็นต้องใช้ ควรใช้ยาในขนาดต่ำ และ
ระยะเวลาสั้นที่สุด โดยติดตามผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
- ผู้ป่วยที่มีอาการหอบหืด (asthma) ลมพิษ (urticaria) หรือมีอาการแพ้หลังจาก
ได้รับยากลุ่มแอสไพริน
- ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดแผลหรือเลือดออกในทางเดินอาหาร ได้แก่
อายุมากกว่า > 65 ปี มีประวัติในอดีตเกี่ยวกับโรคกระเพาะอาหาร หรือเลือดออกทางเดินอาหาร มี
โรคร่วมบางอย่าง เช่น ตับแข็ง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคไต หรือใช้ยาบางอย่างร่วมด้วย เช่น
สเตียรอยด์ ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด ควรหลีกเลี่ยงยากลุ่มนี้ แต่กรณีจำเป็น พิจารณาใช้ยา
ป้องกันการเกิดผลข้างเคียงต่อระบบทางเดินอาหาร ได้แก่ ยากลุ่ม Proton pump inhibitors เช่น
omeprazole, esomeprazole, pantoprazole, lansoprazole และ rabeprazole หรือยา Misoprostol

• ไม่ควรใช้ยาในขนาดสูงติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน
ข้อห้ามในการใช้ยา
• เมื่อแพ้ยาแอสไพริน และยาในกลุ่มนี้

ผลข้างเคียงของยา (กลุ่ม NSAIDs)

ระบบทางเดินอาหารและตับ
- ปวดจุกลิ้นปี่ ท้องอืด คลื่นไส้ อาเจียน แผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ส่วนต้น
เลือดออกจากแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ และลำไส้อุดตัน กระเพาะอาหารทะลุ
- การทำงานของตับผิดปกติ ดีซ่าน ตับอักเสบ

ระบบทางเดินปัสสาวะ
- เนื้อไตอักเสบ กรวยไตตาย (papillary necrosis) มีการคั่งของน้ำและเกลือแร่
จากการทำงานของไตบกพร่อง

ระบบสืบพันธุ์เพศหญิง
- มีเลือดออกจากช่องคลอดผิดปกติ ประจำเดือนมามากหรือนานผิดปกติ

ระบบหัวใจและหลอดเลือด
- ใจสั่น หัวใจเต้นเร็วหรือผิดจังหวะ เจ็บแน่นหน้าอก หัวใจวาย
- การนำกระแสไฟฟ้าในหัวใจถูกปิดกั้น (Heart block)
- เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดหลอดเลือดอุดตัน (cardiovascular risk)

ระบบประสาทส่วนกลาง
- ปวดศีรษะ มึนศีรษะ เวียนศีรษะ ซึม ซึมเศร้า กระสับกระส่าย หงุดหงิด สับสน
นอนไม่หลับ


ระบบการได้ยินและการทรงตัว
- มีเสียงดังในหู

ระบบโลหิตวิทยา
- กดการทำงานของไขกระดูก ทำให้ซีด เม็ดเลือดขาวต่ำ เกร็ดเลือดไม่จับกลุ่ม
เกร็ดเลือดต่ำ

ระบบทางเดินหายใจ
- หอบหืด

ระบบผิวหนัง
- ผื่นแพ้ยา คันตามผิวหนัง ไวต่อแสง (photosensitivity) โรค Porphyria

Cutanea Tarda

การติดตามผลข้างเคียงของยา
• ติดตามอาการเลือดออกจากทางเดินอาหาร
• ตรวจเลือดเพื่อดูการทำงานของไตและตับเป็นระยะๆ

COX – II inhibitors

ข้อบ่งใช้
• ผู้ป่วยโรคข้อเสื่อมที่มีปัจจัยเสี่ยงสูงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนในระบบทางเดิน
อาหารจากยากลุ่ม NSAIDs

ข้อห้าม
• Celecoxib, Etoricoxib และ Lumiracoxib
- ผู้ป่วยที่เคยมีประวัติแพ้ยา Celecoxib, Etoricoxib และ Lumiracoxib
- ผู้ป่วยที่เคยมีประวัติแพ้ยา Sulfonamide (เฉพาะใน Celecoxib)

ขนาดและรูปแบบของยา
• Celecoxib 200 มก./วัน ให้วันละครั้ง
• Etoricoxib 60 มก./วัน ให้วันละครั้ง
• Lumiracoxib 100 มก./วัน ให้วันละครั้ง

ข้อควรระวัง
1. ผู้ป่วยที่มีอาการหอบหืด (asthma) ลมพิษ (urticaria) หรือมีอาการแพ้ หลังจากได้รับ
ยากลุ่มแอสไพรินหรือยากลุ่มต้านอักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์
2. ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาในผู้ป่วยตั้งครรภ์ ผู้ที่ให้นมบุตร และผู้ป่วยอายุน้อยกว่า 18 ปี
3. ในผู้ป่วยที่เคยมีประวัติมีแผลหรือเลือดออกในระบบทางเดินอาหาร ก็ควรหลีกเลี่ยง
การใช้ยา หากจำเป็นต้องใช้ก็ควรจะใช้ขนาดต่ำสุด และระยะเวลาสั้นที่สุดเพื่อการรักษา
4. ควรใช้ด้วยความระมัดระวังในผู้ป่วยที่เป็นโรคตับ มีภาวะการทำงานของไตบกพร่อง
ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง เบาหวาน หัวใจวาย peripheral arterial disease โรคกล้ามเนื้อ
หัวใจตายจากการขาดเลือด(established ischaemic heart disease) หรือ โรคหลอดเลือดสมอง
(cerebrovascular disease [stroke])
5. ไม่ควรใช้ยาในขนาดสูงติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน

ผลข้างเคียงของยากลุ่ม COX 2 inhibitors

อาการทั่วไป
- บวมทั่วตัว หน้าบวม อ่อนเพลีย มีไข้ อาการคล้ายไข้หวัด ปกติพบได้น้อย เกิด
ประมาณร้อยละ 0.1-1.9

ระบบทางเดินอาหาร

- ท้องผูก กลืนอาหารลำบาก หลอดอาหารอักเสบ กระเพาะอาหารอักเสบ ลำไส้
อักเสบ gastroesophageal reflux ริดสีดวงทวาร hiatal hernia ถ่ายอุจจาระดำ ถ่ายอุจจาระลำบาก
คลื่นไส้-อาเจียน

ระบบหัวใจและหลอดเลือด
- ความดันโลหิตสูง เจ็บหน้าอกจากหัวใจขาดเลือด กล้ามเนื้อหัวใจตายจากการ
ขาดเลือด ใจสั่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ

ระบบประสาท
- ตะคริวที่ขา กล้ามเนื้อแข็งเกร็ง ปวดศีรษะไมเกรน ปวดปลายประสาท เวียน
ศีรษะ

ระบบสืบพันธุ์เพศหญิง
- เนื้องอกที่เต้านม ปวดประจำเดือน ประจำเดือนมาผิดปกติ เลือดออกจากช่อง
คลอด ช่องคลอดอักเสบ

ระบบสืบพันธุ์เพศชาย
- ต่อมลูกหมากผิดปกติ

ระบบการได้ยินและการทรงตัว
- หูหนวก ปวดหู มีเสียงผิดปกติในหู (tinnitus)

ตับและทางเดินน้ำดี
- มีความผิดปกติในการทำงานของตับ มีการเพิ่มของ AST(SGOT), ALT(SGPT)
ไต
- มีโปรตีนในปัสสาวะ กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะเป็น
เลือด ปัสสาวะบ่อย กลั้นปัสสาวะไม่ได้ นิ่วในไต ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ

กระดูกและกล้ามเนื้อ
- ปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อ คอแข็งเกร็ง เอ็นอักเสบ เยื่อบุข้ออักเสบ

ระบบทางเดินหายใจ
- หลอดลมอักเสบ หลอดลมเกร็งตัว ไอ หอบเหนื่อย กล่องเสียงอักเสบ ปอด
อักเสบ

ผิวหนัง ผม เล็บ
- ผมร่วง เล็บผิดปกติ ผิวหนังอักเสบ แพ้แสงแดด คัน ผื่นแดงนูน ผิวแห้ง เหงื่อ
ออกมาก

ระบบโลหิต
- จ้ำเลือด เลือดกำเดาไหล ซีด

ตา
- มองไม่ชัด ต้อกระจก ต้อหิน เยื่อบุตาอักเสบ ปวดตา

การรับรส

- รับรสเปลี่ยนไป

จิตใจ
- กังวล เบื่ออาหาร กินอาหารมากผิดปกติ ซึมเศร้า ง่วง นอนมาก

Tramadol

ข้อบ่งใช้
• ลดอาการปวดข้อ

ขนาดยา
• แคปซูล 50 มก. 100 มก. 3-4 แคปซูล/วัน แบ่งให้วันละ 3-4 ครั้ง โดยเริ่มยาขนาดน้อย
และปรับขนาดยาครั้งละ 50 มก./วัน ทุก 3 วัน จนสามารถควบคุมอาการปวดได้ โดยขนาดสูงสุดไม่
เกิน 400 มก./วัน ผู้ป่วยอายุมากกว่า 75 ปี ไม่ควรใช้ยาเกิน 300 มก./วัน

ข้อห้ามในการใช้ยา
• ตับอักเสบ
• Acute intoxication with alcohol, hypnotics, analgesics or psychotropic drugs
• แพ้ยา tramadol หรือ opioids
• opioid-dependent patients

ข้อควรระวังในการใช้ยา
• ในรายที่เคยมีประวัติชัก และมีโอกาสชัก
• ไม่ใช้ยาร่วมกับยากลุ่ม MAOIs
• ลดขนาดยาเมื่อใช้ร่วมกับยากดประสาทส่วนกลาง (CNS depressants)
• มีความเสี่ยงในการชักเพิ่มขึ้น เมื่อใช้ร่วมกับยากลุ่ม serotonin reuptake inhibitors,
tricyclic antidepressants, other cyclic compounds, neuroleptics, MAOIs และยาอื่นที่มีผล
lower seizure threshold
• ลดขนาดยา ในผู้ป่วย โรคตับ ไต myxedema, hypothyrodism, hypoadrenalism
• ไม่แนะนำให้ใช้ในระหว่างตั้งครรภ์และให้นมบุตร

ผลข้างเคียง

ระบบประสาท
- ง่วงซึม เวียนศีรษะ การตัดสินใจผิดปกติ กดการหายใจ


ระบบทางเดินอาหาร
- ท้องผูก เบื่ออาหาร ปากแห้ง คอแห้ง คลื่นไส้อาเจียน

ระบบหัวใจและหลอดเลือด
- ความดันโลหิตต่ำ

ระบบทางเดินปัสสาวะ
- ปัสสาวะไม่ออก (micturation disorder)

ผิวหนัง
- ผื่นแพ้

การฉีดสเตียรอยด์เข้าข้อ (Intraarticular steroids)

ข้อบ่งใช้
1. มีการอักเสบของข้อ หรือมีน้ำในข้อ
2. ผู้ป่วยที่มีข้อห้ามในการใช้ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs)
3. ใช้เสริมฤทธิ์ร่วมกับยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์

ข้อห้าม
1. ภาวะติดเชื้อในข้อหรือเนื้อเยื่อรอบ ๆ ข้อ
2. ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด
3. ข้อหลวมคลอน (unstable joint)
4. กระดูกในข้อหัก (intraarticular fracture)
5. กระดูกรอบข้อบางหรือผุ (juxta-articular osteoporosis)
6. ไม่ตอบสนองต่อการฉีดสเตียรอยด์เข้าข้อ

ผลข้างเคียง
• ติดเชื้อในข้อ
• ข้อสึกกร่อนรุนแรง (Charcot’s liked arthropathy)
• กระดูกขาดเลือด (osteonecrosis)
• ข้ออักเสบจากผลึกสเตียรอยด์


การฉีดน้ำไขข้อเทียม (Intraarticular Hyaluronic acid injection)

ข้อบ่งใช้
1. ผู้ป่วยที่ยังคงมีอาการปวดข้อหลังจากได้รับการรักษาอย่างเต็มที่ด้วยวิธีการที่ไม่ใช้ยา
และยาแก้ปวด
2. มีข้อห้ามในการใช้ยา Non-selective NSAIDs และ COX-2 inhibitors
3. ผู้ป่วยที่มีโรคร่วมและไม่สามารถรับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเทียม

ข้อห้าม
1. มีการติดเชื้อในข้อหรือบริเวณรอบข้อ
2. มีประวัติแพ้โปรตีนจากสัตว์ปีก (เฉพาะยาที่สกัดจากหงอนไก่)
ผลข้างเคียง
• ข้ออักเสบกำเริบภายหลังการฉีด
• ติดเชื้อในข้อ

Glucosamine sulphate

ข้อบ่งใช้
1. ผู้ป่วยที่ยังคงมีอาการปวดข้อหลังจากได้รับการรักษาอย่างเต็มที่ด้วยวิธีการที่ไม่ใช้ยา
และยาแก้ปวด
2. มีข้อห้ามในการใช้ยา Non-selective NSAIDs และ COX-2 inhibitors

ขนาดยา
Glucosamine sulphate ขนาด 1000-1500 มก./วัน

ข้อห้าม
ผู้ป่วยที่แพ้ glucosamine sulphate

ข้อควรระวัง
อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นในผู้ป่วยเบาหวาน


Diacerein

ข้อบ่งใช้
1. ผู้ป่วยที่ยังคงมีอาการปวดข้อหลังจากได้รับการรักษาอย่างเต็มที่ด้วยวิธีการที่ไม่ใช้ยา
และยาแก้ปวด
2. มีข้อห้ามในการใช้ยา Non-selective NSAIDs และ COX-2 inhibitors

ขนาดยา
Diacerein 50-100 มก./วัน

ข้อห้าม
ผู้ป่วยที่แพ้สาร anthraquinone (anthraquinone derivative)

ผลข้างเคียง
• ถ่ายเหลว
• ปัสสาวะสีเหลืองเข้มขึ้น
สนับสนุนโดยสุขภาพหัวเข่าดี ชีวิตก็ดีขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น